โรคโมยาโมย่า (Moyamoya Disease) โรคหลอดเลือดสมองที่ควรระวัง

โรคโมยาโมย่า (Moyamoya Disease) เป็นโรคหลอดเลือดสมองที่หายากแต่มีความร้ายแรง เป็นสาเหตุของการเกิดหลอดเลือดตีบในสมองที่ส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนของเลือดไปยังสมอง โดยเฉพาะในเด็กและผู้ใหญ่หนุ่มสาวที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง การรู้จักและเข้าใจอาการของโรคนี้สามารถช่วยให้มีการรักษาอย่างเหมาะสมและทันท่วงทีเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงได้

 

โรคโมยาโมย่าคืออะไร

โรคโมยาโมย่าคืออะไร

โรคโมยาโมย่าเป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของหลอดเลือดสมองที่บริเวณฐานสมอง (Cerebral arteries) ซึ่งเกิดการตีบและแคบลงเรื่อยๆ ทำให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนไปยังสมองได้อย่างเพียงพอ โรคนี้พบได้บ่อยในเด็ก แต่ก็สามารถเกิดในผู้ใหญ่ได้เช่นกัน เมื่อหลอดเลือดหลักที่ส่งเลือดไปยังสมองเริ่มตีบ สมองจะพยายามสร้างหลอดเลือดเล็กๆ ใหม่เพื่อชดเชยการขาดเลือด ทำให้เกิดภาพที่ดูคล้ายควันบุหรี่ในผลตรวจภาพสมองที่เรียกว่า “Moyamoya” ซึ่งเป็นภาษาญี่ปุ่นแปลว่า “หมอกควัน”

ลักษณะของโรคโมยาโมย่า

โรคนี้มีลักษณะเด่นคือการตีบของหลอดเลือดหลักในสมอง เช่น หลอดเลือดแดงคาโรติดภายใน (Internal carotid artery) และหลอดเลือดแดงกลางสมอง (Middle cerebral artery) เมื่อเกิดการตีบ สมองจะสร้างหลอดเลือดเล็ก ๆ เพื่อลำเลียงเลือดไปยังสมอง แต่หลอดเลือดใหม่เหล่านี้ไม่แข็งแรงพอ จึงเสี่ยงต่อการแตกหรือเกิดภาวะเลือดออกในสมองได้ง่าย

สาเหตุและการเกิดโรคโมยาโมย่า

สาเหตุของโรคโมยาโมย่ายังไม่ทราบแน่ชัด แต่มีการเชื่อมโยงกับพันธุกรรมและการกลายพันธุ์ของยีน โดยเฉพาะในกลุ่มคนเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี และจีน โรคนี้มีอัตราการเกิดที่สูงกว่าในประชากรเอเชียมากกว่าประชากรในพื้นที่อื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ เช่น โรคเกี่ยวกับระบบหลอดเลือดสมอง โรคทางพันธุกรรมบางชนิด เช่น โรคดาวน์ซินโดรม หรือโรคไขสันหลังอักเสบเรื้อรัง

 

อาการของโรคโมยาโมย่า

อาการของโรคโมยาโมย่า

อาการของโรคโมยาโมย่าเกิดขึ้นเมื่อสมองได้รับเลือดไม่เพียงพอ อาการจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่หลอดเลือดสมองเกิดการตีบแคบ อาการที่พบได้บ่อยรวมถึงอาการของโรคหลอดเลือดสมอง เช่น การเคลื่อนไหวผิดปกติ การรู้สึกชา หรือการสูญเสียสติ

อาการเริ่มแรกที่ควรสังเกต

ในเด็ก อาการแรกที่สังเกตได้อาจเป็นอาการชัก ซึ่งเกิดจากสมองขาดเลือด ส่วนในผู้ใหญ่ อาจพบอาการคล้ายกับโรคหลอดเลือดสมองขาดเลือดชั่วคราว (Transient ischemic attack – TIA) เช่น การพูดไม่ชัด การรู้สึกชาที่แขนหรือขาข้างใดข้างหนึ่ง การมองเห็นผิดปกติ หรือเวียนศีรษะ อาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นชั่วคราวและหายไปเองได้ในช่วงแรก

อาการที่ส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวและระบบประสาท

เมื่อโรคลุกลาม อาการจะรุนแรงขึ้น อาจเกิดภาวะเลือดออกในสมองได้ ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะรุนแรง อาเจียน หรือหมดสติ นอกจากนี้ยังมีผลกระทบต่อระบบประสาทอื่น ๆ เช่น การสูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหว การพูด หรือความจำเสื่อม หากไม่ได้รับการรักษาทันทีอาจทำให้เกิดภาวะอัมพาตหรือภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้

 

วิธีการรักษาโรคโมยาโมย่า

การรักษาโรคโมยาโมย่ามุ่งเน้นไปที่การเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังสมอง และลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองในอนาคต โดยมีทั้งการผ่าตัด การใช้ยา และการฟื้นฟูสมรรถภาพเพื่อควบคุมอาการ

การผ่าตัดเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือด

การผ่าตัดเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการรักษาโรคโมยาโมย่า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังสมองผ่านการสร้างหลอดเลือดเชื่อมโยงใหม่ วิธีที่นิยมใช้คือการผ่าตัดที่เรียกว่า “Direct bypass” หรือ “Indirect bypass” เพื่อเชื่อมต่อหลอดเลือดที่มีการตีบกับหลอดเลือดที่ยังทำงานปกติในบริเวณสมอง

การรักษาด้วยยาและการควบคุมอาการ

สำหรับผู้ป่วยบางรายที่ยังไม่ต้องการการผ่าตัด แพทย์อาจแนะนำการใช้ยาเพื่อควบคุมอาการและลดความเสี่ยงในการเกิดลิ่มเลือดยาที่ใช้ ได้แก่ ยาต้านเกล็ดเลือด เช่น แอสไพริน ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการอุดตันของหลอดเลือด การใช้ยาจำเป็นต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

การฟื้นฟูและดูแลหลังการรักษา

หลังการผ่าตัดหรือการรักษาด้วยยา ผู้ป่วยควรได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะการฟื้นฟูการเคลื่อนไหวและการปรับตัวให้เข้ากับการทำงานของระบบประสาทที่อาจได้รับผลกระทบจากโรค นักกายภาพบำบัดและนักบำบัดทางจิตวิทยามีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีคุณภาพ

โมยาโมย่า

หลังการผ่าตัดหรือการรักษาด้วยยา ผู้ป่วยควรได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะการฟื้นฟูการเคลื่อนไหวและการปรับตัวให้เข้ากับการทำงานของระบบประสาทที่อาจได้รับผลกระทบจากโรค นักกายภาพบำบัดและนักบำบัดทางจิตวิทยามีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีคุณภาพ

 

BluMed ได้ร่วมมือกับคลินิกทางการแพทย์ที่ญี่ปุ่น ในการให้คำปรึกษาและจัดการความเจ็บปวดอย่างเหมาะสม ตามอาการของแต่ละบุคคล ดำเนินการโดยบริษัทบริษัท บลู แอสซิสแท็นซ์ จำกัด ก่อตั้งขึ้นภายใต้แนวคิดการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินการจัดการท่องเที่ยวเพื่อมุ่งเน้นในการป้องกันการดูแลสุขภาพ ชะลอการเจ็บป่วย รวมไปถึงการรักษาโรคแก่ผู้รับบริการทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ สำหรับผู้ที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

 

Tel : 02-661-7686

 

Website : blumedth.com/

Line official : @blumed

Share the Post:

Related Posts

โรค Moyamoya เป็นโรคหายากที่มีผลกระทบต่อหลอดเลือดในสมอง […]

อาการปวดข้อมือหรือที่เรียกว่า Carpal Tunnel Syndrome (C […]

โรคเส้นเลือดในสมองตีบ (Stroke) หรือสมองขาดเลือดชั่วคราว […]

อาการปวดเรื้อรังเป็นอาการปวดที่เกิดขึ้นยาวนานกว่าปกติแล […]