อาการปวดเรื้อรังเป็นอาการปวดที่เกิดขึ้นยาวนานกว่าปกติและมีอาการคงอยู่เกินกว่า 3 เดือน อาการนี้สามารถส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตประจำวัน การทำงาน หรือแม้กระทั่งการนอนหลับ หลายคนที่มีอาการปวดเรื้อรังต้องทนทุกข์กับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยที่การรักษาด้วยยาและการบำบัดอาจให้ผลเพียงชั่วคราวเท่านั้น เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจนขึ้น บทความนี้จะอธิบายเกี่ยวกับลักษณะของอาการปวดเรื้อรัง บริเวณที่เกิดอาการ อาการและสาเหตุของอาการปวดเรื้อรัง รวมถึงวิธีการป้องกันที่อาจช่วยลดความเสี่ยงได้
อาการปวดเรื้อรังมีลักษณะอย่างไร
อาการปวดเรื้อรัง หมายถึง ความเจ็บปวดที่มีความต่อเนื่องหรือเกิดขึ้นซ้ำ ๆ โดยอาจมีลักษณะปวดแสบ ปวดเสียด ปวดตึง หรือปวดแบบลึก ๆ อาการปวดเรื้อรังอาจเกิดได้จากการบาดเจ็บหรือโรคที่เกิดขึ้นและหายแล้ว แต่ระบบประสาทยังคงส่งสัญญาณความเจ็บปวดไปยังสมองตลอดเวลา โดยที่ร่างกายไม่สามารถฟื้นฟูหรือหยุดการส่งสัญญาณได้อย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ ความเครียดและภาวะจิตใจก็มีผลต่อความรุนแรงของอาการปวด ทำให้อาการปวดมีลักษณะซับซ้อนและมีความหลากหลาย
อาการปวดเรื้อรังจะปวดตามบริเวณไหนบ้าง
อาการปวดเรื้อรังสามารถเกิดขึ้นได้ในหลายส่วนของร่างกาย ซึ่งบริเวณที่พบอาการปวดเรื้อรังได้บ่อยมีดังนี้
- อาการปวดหลัง – มักเกิดบริเวณหลังส่วนล่าง ซึ่งเกิดจากการทำงานหนัก การนั่งนาน หรือการบาดเจ็บ
- อาการปวดศีรษะและไมเกรน – เป็นอาการปวดเรื้อรังที่เกิดบริเวณศีรษะ มักมีลักษณะปวดตุบ ๆ และเกิดขึ้นซ้ำ ๆ
- อาการปวดข้อ – โดยเฉพาะในข้อเข่า ข้อศอก หรือข้อสะโพก ซึ่งอาจเป็นผลจากโรคข้อเสื่อมหรืออาการบาดเจ็บ
- อาการปวดคอและไหล่ – อาจเกิดจากการนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์นาน ๆ หรือการใช้งานกล้ามเนื้อบริเวณนี้ซ้ำ ๆ
- อาการปวดท้อง – เกิดจากโรคในระบบย่อยอาหารหรือกล้ามเนื้อหน้าท้องอักเสบ
- อาการปวดจากโรคประสาทและเส้นประสาท – เช่น อาการปวดประสาทที่เกิดจากโรคเบาหวานหรือเส้นประสาทถูกกดทับ
อาการและสาเหตุของอาการปวดเรื้อรัง
อาการของอาการปวดเรื้อรัง
- ปวดอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นลักษณะปวดแสบ ปวดลึก หรือปวดเสียด
- รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีเรี่ยวแรง
- มีอาการนอนไม่หลับหรือพักผ่อนไม่เพียงพอเนื่องจากความเจ็บปวด
- รู้สึกซึมเศร้า วิตกกังวล หรือเกิดภาวะเครียดจากความเจ็บปวดที่ยาวนาน
สาเหตุของอาการปวดเรื้อรัง
อาการปวดเรื้อรังเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
- การบาดเจ็บรุนแรง – อาจเกิดจากอุบัติเหตุหรือการผ่าตัดที่ทำให้เนื้อเยื่อเสียหายอย่างถาวร
- โรคข้อเสื่อมและกระดูกพรุน – โรคเหล่านี้ทำให้ข้อและกระดูกเสื่อมสภาพ ส่งผลให้เกิดอาการปวดเรื้อรัง
- โรคประสาทและเส้นประสาท – เช่น เส้นประสาทที่ถูกกดทับหรืออาการปวดที่เกิดจากโรคเบาหวาน
- ความเครียดและภาวะจิตใจ – ภาวะเครียดและความวิตกกังวลสามารถกระตุ้นหรือเพิ่มความรุนแรงของอาการปวด
- ความไม่สมดุลของระบบภูมิคุ้มกัน – ซึ่งเกิดในบางโรคที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานผิดปกติ ส่งผลให้เกิดอาการปวดเรื้อรัง เช่น โรคแพ้ภูมิตนเอง (autoimmune diseases)
วิธีป้องกันการปวดเรื้อรัง
- การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ – การออกกำลังกายช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและข้อต่อให้แข็งแรง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดการบาดเจ็บหรือการเสื่อมสภาพของข้อต่อ
- การนั่งและยืนในท่าทางที่ถูกต้อง – ควรหลีกเลี่ยงการนั่งหรือนอนในท่าทางที่ผิด เพราะอาจส่งผลกระทบต่อกระดูกสันหลังและกล้ามเนื้อ
- การจัดการกับความเครียด – ควรหากิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ การฝึกโยคะ หรือการทำกิจกรรมที่ชอบ เพื่อลดความเครียดและความวิตกกังวล
- การพักผ่อนที่เพียงพอ – ร่างกายจะมีโอกาสฟื้นฟูจากการพักผ่อนที่เพียงพอ ซึ่งเป็นการช่วยลดการอักเสบและการเจ็บปวด
- การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ – อาหารที่อุดมด้วยสารต้านการอักเสบ เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช และอาหารที่มีโอเมก้า 3 ช่วยบรรเทาอาการอักเสบและช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น
อาการปวดเรื้อรังเป็นภาวะที่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของผู้ที่ประสบกับความเจ็บปวดที่ยาวนานและไม่สามารถหายขาดได้ง่าย ความเข้าใจในลักษณะของอาการ บริเวณที่เกิดอาการ สาเหตุของอาการปวด และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อป้องกัน สามารถช่วยลดความรุนแรงและความถี่ของอาการปวดได้ การดูแลตนเองอย่างถูกวิธีและการเลือกใช้การรักษาที่เหมาะสมจะเป็นกุญแจสำคัญในการจัดการกับอาการปวดเรื้อรัง
สัมผัสประสบการณ์ Blumed
บลู เมดิแคร์ เจเเปน (Blue Medicare Japan) หรือ BluMed ดำเนินการโดย บริษัท บลู แอสซิสแท็นซ จำกัด ก่อตั้งขึ้นภายใต้แนวคิดการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินการจัดการท่องเที่ยวเพื่อมุ่งเน้นในการป้องกันการดูแลสุขภาพ ชะลอการเจ็บป่วย รวมไปถึงการรักษาโรคแก่ผู้รับบริการทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
BluMed ได้ร่วมมือกับคลินิกทางการแพทย์ที่ญี่ปุ่น ในการให้คำปรึกษาและจัดการความเจ็บปวดอย่างเหมาะสม ตามอาการของแต่ละบุคคล สำหรับผู้ที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ที่
เบอร์โทรศัพท์ : 02-661-7686
Website : blumedth.com
Line official : @blumed